Hello London

Hello London

Monday, 4 October 2010

พาฝรั่งเที่ยว @Chiang Mai

หากคุณต้องพาฝรั่งเที่ยวแล้วล่ะก็ สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือ เชียงใหม่   เมืองเหนือที่ยังเต็มไปด้วยอารธรรมท้องถิ่นแบบล้านนาที่ยังคงเสน่ห์ให้กับฝรั่งทุกคนที่มาเยือนและได้สัมผัส  ความเป็นเอกลักษณ์ของล้านนา สถาปัตยกรรม บ้านเรือน อาคารเก่าที่แฝงตัวอยู่ทั่วไปในย่านเขตเมือง บูติคโฮเต็ลเก๋ๆ อากาศที่เย็นสบาย หุบเขา ป่าสีเขียวที่ล้อมรอบตัวเมืองเชียงใหม่  รวมทั้งอัธยาศัยของคนเชียงใหม่ที่อบอุ่น ชวนให้คนที่ได้มีโอกาสมาสัมผัสเมืองนี้หลงเสน่ห์เมืองไทยโดยไม่รู้ตัว  ยิ่งถ้าคุณเป็นคนพาเขาไปล่ะก็ หนุ่มฝรั่งคนนั้นเขาจะประทับใจในตัวคุณขึ้นมาเป็นทวีคูณ
และที่ขาดไม่ได้ อย่าลืมพาไปกินอาหารแบบขันโตก อาหารพื้นบ้านแบบล้านนาดั้งเดิม มีหลายร้านให้เลือก ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่พาทัวร์ฝรั่งมาลง และก็มีโชว์ การแสดงฟ้อนรำต่างๆ  แต่ที่ Miss Noo อยากแนะนำคือร้านที่ไม่ค่อยมีฝรั่งไป อยู่:ซอยตรงข้ามโรงเรียน Prince มีการแสดง ฟ้อนรำต่างๆ แถมมีซี่โครงหมูย่าง ไว้เอาใจฝรั่งที่ไม่ค่อยถนัดอาหารพื้นบ้านสักเท่าไร  รับรองคุณฝรั่งของคุณจะประทับใจ เพราะเป็นร้านสำหรับคนไทย ไม่ใช่สำหรับทัวร์ คุณฝรั่งของคุณจะรู้สึกพิเศษ ว่าเขาเป็นฝรั่งคนเดียวที่นั่น และเขาจะรู้สึกภูมิใจมากที่ได้มาสัมผัสร้านท้องถิ่นจริงๆ  สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่ไม่ไกลจากตัวเมืองนัก เหมาะสำหรับพักทานอาหารกลางวัน หลังจากกลับมาจากดอย เป็นร้านที่ติดวิวน้ำตก ชื่อ โป่งแยงแอ่งดอย ร้านนี้เหมาะแก่การนั่งพัก สัมผัสธรรมชาติ และสูดกลิ่นไอของป่าและน้ำตกแห่งเมืองเหนือ  และที่พิเศษไปกว่านั้นคือ บรรยากาศที่เหมาะแก่คนที่เพิ่งรู้จักกัน ได้นั่งคุย ทำความรู้จักกัน คุณและเพื่อนฝรั่งของคุณอาจจะนั่งจนลืมเวลาก็เป็นได้


เชียงใหม่ยังมีสถานที่ที่ Miss Noo อยากแนะนำอีกเยอะ สถานที่พักสำหรับเพื่อนฝรั่งของคุณ ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน รวมทั้งร้านอาหารฝรั่งเศสที่อร่อยมากๆๆๆ หากคุณไปกับเพื่อนฝรั่งชาวยุโรป หนุ่มชาตินี้มักจะโหยหาไวน์ดีๆ และอาหารยุโรปอย่างน้อยก็หนึ่งมื้อ  เพราะฉะนั้นคุณควรจะต้องเตรียมหาข้อมูลไว้ล่วงหน้าได้เลย



พาฝรั่งเที่ยว@Mae Hong Son

เห็นป้ายก็คุ้นๆแล้วใช่ไม๊ค๊ะ

Monday, 26 July 2010

สถานที่เดทในกรุงเทพ

เย็นวันนึง Miss Noo ไปทำธุระแถวดิโอลด์สยาม พอเสร็จธุระ Miss Noo เลยถือโอกาสเดินเล่นแถวนั้น Miss Noo เดินเลาะมาตามถนนที่จะมาทะลุเสาชิงช้า ก็บังเอิญไปสะดุดตากับร้านเก๋ๆสีขาวร้านนึงตรงหัวมุมถนนติดกับโรงละครเฉลิมกรุง เป็นร้านสีขาวทั้งหลัง เป็นเหล็กดัด ฉลุลวดลายวิจิตรงดงาม กรุด้วยกระจกใสตลอดแนว Miss Noo เห็นแล้วอดใจไม่ไหวที่จะเก็บรูปมาฝากเพื่อนๆ พอเห็นร้านนี้ทำให้นึกถึง ร้าน afternoon tea เจ้าดังที่อังกฤษที่ชื่อ Betty's เป็นร้านออกแนว Colonial ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่เข้ามามีบทบาทมากในกรุงเทพเมื่อสมัยรัชกาลที่5 Miss Noo เดินไปรอบๆร้านก็ไปสะดุดกับป้ายที่คุ้นตา ร้าน S&P
ที่แท้ก็เป็นร้าน S&P เจ้าดังนี่เอง แต่ตกแต่งร้านสไตล์ Colonial เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเมืองแถบนั้น Miss Noo ไม่ได้เข้าไปข้างใน แต่ก็เชื่อว่ามาตรฐานของร้านน่าจะเหมือนกันทุกที่ แต่บรรยากาศนี่สิที่ต่างออกไ ซึ่ง Miss Noo คิดว่าน่าจะเป็นร้านนึงที่ไม่ควรพลาดที่จะพาคู่เดทของคุณมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมาเดินเที่ยวแถวเสาชิงช้าในยามเย็น บรรยากาศสงบๆ แสงไฟสลัวๆจากเสาชิงช้า และ ตึกอาคารที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของไทยสมัยก่อน ที่หล่อหลอม ประสานกันจนเป็นหนึ่งเดียว จะช่วยกล่อมเกลาให้อรรถรสของการเดทของคุณในคำคืนนี้พิเศษขึ้นอย่างทวีคูณ

Tuesday, 6 July 2010

สถานที่นัดเดทในกรุงเทพ











ในวันว่างๆ Miss Noo ชอบที่จะไปตามร้านและสถานที่ต่างๆในกรุงเทพ และมีหลายที่ที่Miss Noo ไปและรู้สึกประทับใจ Miss Nooเลยบันทึกไว้ในความทรงจำ และหวังว่าวันหนึ่งเราจะกลับมาที่เหล่านี้อีกครั้งพร้อมกับคู่เดท








การเดทส่วนใหญ่ มักจะไปกินข้าว ดูหนัง และตบท้ายด้วยสถานที่เงียบเหมาะแก่การพูดคุยทำความรู้จักกัน อาจจะมีบ้างที่คู่เดทบางคู่อาจจะโลดโผน นัดกันที่สถานที่อึกทึก ครึกโครม เช่นสนามกีฬา หรือดิสโก้เธค แต่นั่นก็อาจจะเป็นสไตล์ที่ลงตัวของแต่ละคู่ แต่โดยส่วนใหญ่สำหรับคู่ที่พึ่งทำความรู้จักกัน สถานทีที่เหมาะแก่การนัดเจอกันไม่ควรจะดังมาก เพราะการพูดคุยก็เป็นภาษาอังกฤษเสียส่วนใหญ่ ซึ่งก็ต้องใช้สมาธิและก็เครียดพอควรอยู่แล้ว จึงควรนัดเจอกันที่ทำให้การสนทนาเป็นไปได้อย่างราบรื่น ดูจะเป็นตัวช่วยในการเริ่มต้นทำความรู้จักกันได้อย่างดี








Miss Noo จึงอยากแนะนำที่ๆเหล่านี้ เผื่อสาวๆที่กำลังเดทหนุ่มฝรั่ง กำลังมองหารสถานที่ที่จะพาหนุ่มฝรั่งของคูณนั่งคุย ทำความรู้จักกัน








อันดับ 1. ริมแม่น้ำเจ้าพระยา








แน่นอนเรื่องบรรยากาศ มันแสนจะโรแมนติก และที่สำคัญสาวไทยอย่างเราจะได้อวดวิถีการดำรงชีวิตของไทยกับสายน้ำให้ฝรั่ง แน่นอนว่าฝรั่งกี่คน กี่คน ก็แสนจะปลื้มกับคุณ ฟันธง!!!!!




1. ร้านกาแฟวีวี่ Vivi Coffee Shop




ร้านนี้เป็นร้านกาแฟเก๋ๆ ติดแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งเมืองค่ะ เวลาเย็นๆประมาณ 5 โมงกว่า บรรยากาศสุดแสนโรแมนติค ที่นี่คุณจะได้นั่งดื่มกาแฟพร้อมชมพระอาทิตย์ตกเหนือยอดพระปรางก์วัดอรุณที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำค่ะ




2. ร้านอาหาร The Deck อยู่ในบูติคโฮเต็ล Arun Residence แถบเดียวกับ Vivi เป็นร้านอาหารฝรั่งค่ะ แต่บรรยากาศยามค่ำคืน สุดแสนจะบรรยาย ไฟที่สาดส่องพระปรางก์วัดอรุณ มันเหลืองอร่ามเหมือนทอง ลมเย็นๆของแม่น้ำเจ้าพระยาที่พัดผ่าน ยามคุณสองคนดินเนอร์ ก็จินตนาการเอาเองและกันว่าจะหวานแค่ไหน

3. ร้านสุภัทรา ริเวอร์เฮ้าส์ ร้านนี้ถ้าแฟนฝรั่งของคุณชอบเป็ด อย่าพลาดที่จะสั่ง เป็ดทอดราดซอสมะขาม มาเอาใจแฟนฝรั่งของคุณเป็นเด็ดขาด รับรองพ่อหนุ่มฝรั่งจะเทคะแนนให้คุณอย่างท่วมท้น

4. ครัวระฆังทอง ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ อยู่ติดกับสุภัทรา ริเวอร์เฮ้าส์ ร้านสไสตล์บ้านๆ อยู่ริมแม่น้ำ ถ้าแฟนฝรั่งของคุณเป็นคนเรียบง่าย หรือคุณมีงบน้อย ก็ที่นี่เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ

5. กินลมชมสะพาน หรือ ริเวอร์บาร์ เป็นร้านอาหารกึ่งผับ ถ้าแฟนฝรั่งของคุณเป็นวัยรุ่น ก็พามาที่นี่เลยค่ะ มีดนตรีอะคูสติกเบาๆ ช่วงหัวค่ำ เหมาะแก่การทำความรู้จักกัน ควรจะโทรจองก่อนค่ะ เพราะที่นี่เป็นร้านอาหาร after work ของคนทำงานค่ะ และจองโต๊ะหมายเลข 100 ค่ะ (ถ้ายังไม่เปลี่ยนนะคะ) อยู่ตรงมูมร้านด้านนอกติดแม่น้ำ มีซุ้มกั้นกับส่วนMain ส่วนตัวมากๆ ค่ะ

วันนี้ Miss Noo ขอแนะนำแค่นี้ก่อนค่ะ และจะมาต่อคราวหน้า พร้อมกับรูปงานมๆของร้านค่ะ

Tuesday, 29 June 2010

เที่ยวเมืองฝรั่ง Australia










































































































เที่ยวเมืองฝรั่ง London England

London is beautiful and it is the city that
i always want to go back. I have a wonderful
memory here in England. I have been in America and never been in Europe. England has exposed me to another side of Europe which i never thought of it in this way.













































การดื่มชาแบบอังกฤษ Afternoon Tea in England

Here is Ritz Calton London. It was the most famous hotel - 5 stars dream hotel of many people. I was lucky that i had a chance to visit London and got a christmas present from friends in Australia for an afternoon tea at this hotel.
It was the most impressive place that
i ever had an afternoon tea in. Elegant tea room with crystal chandellier, waiters in tuxedo carrying trays full of scones, and smell of teas and coffee still vivid in my memory like it was just happened .
It was christmas 2008. That evening was cold, the temperature outside was 0 degree. In stead i was warmed. It must have been hot tea or happiness of this lovely evening that wrapped me as if a nice warm blanket.




Betty's is one of the most famous
afternoon tea place in England. I stopped at one of the Betty's and it was not at all a disappointment. It was delicious, fresh and well presented its traditional english afternoon tea style








Here is another Betty's afternoon tea shop. It was hard not to go in and had a cup of tea. Betty's is an original afternoon tea shop in England. The decoration of the shop may be not as beautiful as Ritz Hotel but it was worth coming to have a tea. Waitress in a blue skirt and white apron is very usual uniform in Betty's. It make me feel like i have a tea at home.
There was a place in Roman Bath Building. It was nice and special. There is a singer with piano who always accompany you while u have your tea.













เที่ยวเมืองฝรั่ง Oslo Norway


โอเปร่าในสวนที่ เฮลซิงบอร์ก Opera in the Park - Helsingborg

โอเปร่าที่เราเคยได้ยินมามันดูหรูหรา วง
orchestra ใหญ่ๆ นักร้องโอเปร่าแต่งตัวสวยๆในชุดราตรี และคอนเสิร์ตก็จะอยู่ในห้องที่มีที่นั่งเป็นระเบียบเหมือนโรงละครแห่งชาติ Miss Nooอาจไม่ใช่แฟนของโอเปร่าก็เป็นได้ เลยไม่รู้ว่าเด๊ยวโอเปร่าเขามีแสดงกันได้ทั่วไป โอเปร่าในสวนที่ไปดูที่เมืองเฮลซิงบอร์ก ซึ่งเป็นเมืองท่าติดทะเลบอลติค อีกฝั่งทะเลก็จะเป็นประเทศเดนมาร์ก เป็นโอเปร่าระดับชั้นนำของโลก นักร้องโอเปร่าคนนี้เป็นนักร้องโอเปร่าระดับโลก ชาวสวีเดน เธอกลับมาแสดงคอนเสิร์ตให้เพื่อนๆชาวสวีเดนของเธอได้ดูเป็นครั้งคราว และแน่นอนการได้ดูนักร้องโอเปร่าระดับโลกเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง เธอมีเอกลักษณ์การร้องและนำเสนอการแสดงของเธอได้น่าทึ่งมากๆ รูปแบบเก่าๆที่เราเคยเห็น เธอผู้นี้ได้ฉีกมันออกและปรับให้เข้ากับสมัยได้อย่างลงตัว ภาพของเธอบนเวทีร้องเพลงโอเปร่าในเสื้อกางเกงยีนส์ เสื้อเชิ๊ต เต้นจังหวะดนตรีร็อค โดยที่มีวงออเครสตร้าบรรเลงอยู่ด้านหลัง เครื่องเสียงที่ใสเหมือนแก้ว มันช่างเหลือเชื่อเหลือเกิน ว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสวนสาธารณะ ที่ผู้คนขวักไขว่ และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ


สำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วพิเศษก็จะได้นั่งเก้าอี้ที่จัดไว้ให้ แต่คนไหนที่ซื้อตั๋วยืนก็จะนำเก้าอี้กันมาจากบ้าน พร้อมกับตะกร้าปิคนิค ขนมปัง กาแฟ และแน่นอนในบรรยากาศเย็นๆ ประมาณ 15 องศาแบบนั้น ก็ต้องสร้างความอบอุ่นกันด้วยเบียร์ล่ะค่ะ
มาดูคอนเสิร์ตอย่างนี้ทำให้นึกย้อนไปถึงเมื่อครั้งไปดู phantom of the opera ที่america บบรยากาศมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน แต่ความรู้สึก ความสุขที่ได้รับจากอรรถรสของดนตรี มันช่าง
วิเศษเหมือนกันซะเหลือเกิน






เที่ยวแลปป์แลนด์ ดินแดนแห่งซานตาคลอส Lappland - Where Santa came from

ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ คือ Lappland ดินแดนที่เป็นตำนานของซานตาคลอส
ทุกๆปีช่างคริสต์มาสดินแดนแลปป์แลนด์แห่งนี้จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ป่าสนสีเขียวขจีในช่วงซัมเมอร์ ก็จะเปลี่ยนสีเป็นป่าสนสีขาวโพลน ในอดีตที่นี่เป็นเมืองเล็กๆในขั้วโลกเหนือ ที่ตามตำนานบอกว่าคือเมืองที่ซานตาคลอสอาศัยอยู่ ทุกปีซานต้าจะแบกถุงของขวัญพร้อมขี่เลื่อนจากดินแดนแห่งนี้ไปแจกของขวัญให้เด็กๆทั่วโลก
ปัจจุบันช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ที่ดั้นด้นจากทะเลอันไกลโพ้นมาตามหาฝันวัยเด็ก และขอได้เห็นซานตาคลอสสักครั้ง ไม่ว่าที่นี่จะหนาวเหน็บแค่ไหนแต่ผู้คนก็ดูจะไม่ย่อท้อ ผู้คนยังหลั่งไหลกันมาทุกคริสต์มาส ทำให้ปัจจุบัน แลปป์แลนด์แห่งนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆของฟินด์แลนด์
เสียดายที่ Miss Noo ไปแลปป์แลนด์ช่วงหน้าร้อน เอาไว้จะหาโอกาสไปอีกครั้งช่วงหน้าหนาว หรือถ้าใครคิดว่า อุณภูมิ -50 องศาแค่ชิวๆ ก็แซงหน้าไปก่อนได้ค่ะ และอย่าลืมเก็บรูปมาฝากด้วยนะคะ







เรือข้ามฟากไปโคเปนเฮเก้น Copenhegen Denmark


ข้ามฟากจาก เฮลซิงบอร์ก ด้วยเรือเฟอรรี่ขนาดใหญ่ คล้ายๆเรือเฟอรี่ข้ามไปสมุยแต่ใหญ่กว่ามาก และหรูกว่ามากค่ะ มี duty free สำหรับซื้อสินค้าปลอดภาษีบนเรือ มีภัตตาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร อยู่เป็นโซนๆบนเรือ เรือข้ามฟากก็จะมีตลอดทั้งวัน เนื่องจากคนสวีเดนและเดนมาร์กเขาเดินทางไปมาหากัน ทำงานฝั่งนี้อยู่ฝั่งโน้น กันเป็นเรื่องปกติ สำหรับ Miss Noo ก็เป็นอะไรที่ตื่นเต้นค่ะ ว้าว!!!!! ทำไมบ้านเราไม่มีแบบนี้บ้างเนาะ
เรือใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็มาถึงฝั่งเดนมาร์ก ที่นี่ท่าเรือเขาจะอยู่ติดกับสถานีรถไฟเลย ก็เดินไปหน่อยก็ถึงสถานี
Miss Noo ต้องนั่งรถไฟต่อไปโคเปนเฮเก้น ใช้เวลาอีกประมาณ 40 นาที รถไฟเขาก็เหมือน BTS เราค่ะ ไม่ใช่รถรางเหมือนการรถไฟของเราหรอกค่ะ
ไปถึงโคเปนเฮเก้น Miss Noo ก็ไปพักที่ Ice Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมของเพื่อนๆที่รู้จักกัน เลยได้อยู่ห้องใหญ่ในราคามิตรภาพ แต่ขอบอกว่าห้องพักในโคเปนเฮเก้น ใหญ่แค่ไหนก็ไม่มีทางใหญ่กว่าโรงแรมบ้านเรา ทุกอย่างในบ้านเขาแพงมากๆ ทุกอย่างเลยต้องย่อส่วนลงมาหมด สำหรับเราคนเอเชียก็ถือว่าโอเค แต่ลองนึกภาพฝรั่งตัวใหญ่ๆในห้องแคบๆสิ มันดูเกะกะและห้องก็ดูแคบลงไปอีกเป็นกอง
โรงแรม Ice Hotel เนี่ย ใครๆมาโคเปนเฮเก้น ก็ต้องมาขอสัมผัสสักหน่อย เขาจะมีห้องให้เราเข้าไปนั่งดื่มเบียร์ ไวน์ แต่จะมีชุดเอสกิโมให้ใส่ ราคาก็ไม่ต้องพูดถึงหลายพันบาทอยู่สำหรับ 1ชั่วโมง อันนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะไม่มีตังก์จ่ายค่าความทรมานตัวเองจ้า
ที่เห็นตึกสีเหลืองสีแดง เรียงรายกันก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันลือชื่อของโคเปนเฮเก้นค่ะ
ก็ประมาณสยามพารากอนนี่แหล่ะ เขาเรียกย่านนี้กันว่า นีย์แฮล์ม Nyhme ใครๆมาก็จะ

หาที่นั่งตามร้านข้างทาง ชิวเอ๊า ดื่มกาแฟ หรือกินอาหารกลางวันกันที่นี่ ก็ราคาไม่ต้องพูดถึง ขอบอกว่าขนหน้าแข้งน่ะร่วงไปหลายเส้นทีเดียว แต่ตอนที่ Miss Noo ไปค่าเงินเดนิชโครนเขาตั้ง 6 บาท ตอนนี้เหลือ 4 บาทเอง ถ้าใครอยากไปต้องรีบไปตอนนี้นะคะ โดยเฉพาะนอร์เวย์ค่ะ ที่นั่นโหดสุดแล้วค่ะ